ดอนคำรีสอร์ท สังขละบุรี

รีสอร์ทติดปากแม่น้ำซองกาเลีย ซึ่งไหลมาบรรจบตรงที่ตั้งของรีสอร์ทนี้พอดี "ดอนคำรีสอร์ท" เป็นรีสอร์ทที่เน้นบรรยากาศที่สงบเงียบ ไม่เจือด้วยแสงสีเสียงใดๆเลย ด้วย แนวคิด ที่เจ้าของรีสอร์ท มุ่งมั่นให้เป็นที่พักผ่อนเพื่อการพักผ่อนที่แท้จริง รีสอร์ทนี้นอกจากติดลำน้ำซองกาเลีย เบื้องหน้ายังเป็นทะเลสาบเขื่อนเขาแหลม เบื้องหลังเป็นขุนเขา นับเป็นทำเลที่สวยงามมากๆ จึงอยากขอแนะนำให้ท่านที่ต้องการความสงบและพักผ่อนจริงๆ ได้ไปลองสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

ดอนคำรีสอร์ทอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 220 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิประมาณ 74 กิโลเมตร รีสอร์ทตั้งอยู่ที่อำเภอสังขละบุรีครับ ซึ่งอำเภอนี้มีบ้านเรือนชาวมอญอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเป็นอำเภอที่มีแม่น้ำ 3 สายคือแม่น้ำซองกาเลีย บิคลิ้และแม่น้ำรันตีและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย  ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองสังขละบุรี ส่วนใหญ่ก็จะไปดูเมืองบาดาล ล่องแพ สักการะหลวงพ่ออุตตะมะ และเลยไปด่านเจดีย์สามองค์ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบอยู่ในจุดที่สามารถไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ ได้สะดวกสบาย อีกทั้งสามารถเห็นวิถีชีวิตของชาวมอญ ที่ประกอบอาชีพและใช้ชีวิตประจำวันที่ผูกพันธ์อยู่กับแม่น้ำซองกาเลียเพื่อไปทำงาน หาปลา และพายเรือกลับตอนช่วงเย็นๆของทุกวัน หรือหากอยากจะขับรถไปดูวิถีชีวิตชาวมอญ ที่สะพานมอญไปวัดหลวงพ่ออุตะมะก็จะพบกับภาพชีวิตอีกแบบที่น่าสนใจและเก็บภาพสวยๆได้ไม่น้อย

รีสอร์ทแห่งนี้เน้นการออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งที่ระเบียงบ้านพักของแต่ละห้อง ดูวิถีชีวิตของชาวมอญทำการประมงน้ำจืดและกิจกรรมอื่นอย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังเป็นจุดที่สามารถดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย และเนื่องจากรีสอร์ทแห่งนี้เน้นให้นักท่องเที่ยว เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เตียงนอนที่นี่แปลกตา และแตกต่างจากรูปแบบโดยทั่วไป เพราะที่นี่ใช้ไม้ท่อนมาทำเป็นหัวเตียง ตกแต่งภายในที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ส่วนด้านที่ติดกับสายน้ำซองกาเลียก็เป็นกระจกแบบเต็มบาน ทำให้มองเห็นแม่น้ำซองกาเลียแบบเต็มตา

ในช่วงเย็นของแต่ละวัน จะเห็นชาวพม่าและชาวกะเหรี่ยง ตกปลาริมฝั่งแม่น้ำกันอย่างเงียบๆ ปลาที่ตกได้ส่วนใหญ่เป็นปลาสร้อย ซึ่งที่เป็นที่มาของ ของดีประจำถิ่นของที่นี่ คือปลาสร้อยแดดเดียว เป็นสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงมาก(ขอแนะนำว่าต้องหาทางชิมให้ได้ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง) นอกจากการดื่มด่ำกับธรรมชาติ บริเวณรอบที่พักแล้ว ยังมี Package ที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ การเที่ยวแบบแนว adventure ดูบ้าง คือการขี่ช้าง ล่องแก่ง พร้อมที่พัก และอาหาร 3 มื้อ อัตราค่าบริการ 1,500 บาท/คน ซึ่งจุดที่ให้บริการทริปนี้คือที่หมู่บ้านชาวเขา โดยเขาจะพาล่องแก่งก่อน ต่อจากนั้นก็เป็นการนั่งช้างชมป่า ซึ่งเป็นป่าแท้ๆ ไม่มีการจัดฉาก ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ และเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อีกทางหนึ่งด้วย

มีโอกาสลองพาครอบครัวหลบความวุ่นวายจากเมืองไปหามุมสงบพักผ่อน ศึกษาวิถีชิวิตและธรรมชาติ ณ ที่แห่งนี้ สัก 2-3 วันอยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรมต่างๆ รว่มกันแล้วคุณจะพบว่า ความสุขในชีวิตนั้นหาไม่ยาก อีกทั้งไม่จำเป็นต้องจ่ายในราคาแพง ขอเพียงออกจากบ้าน ละวางความสะดวกสะบายของวิถีคนเมืองไว้ชั่วคราว แล้วลองไปใช้ชีวิตแบบนี้ดูบ้าง บางทีคุณอาจจะอิจฉาชาวบ้านที่นี่เขาก็ได้